วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

2สีสว่าง (tint เนสีที่เกิดจากสีแท้ (hue ผสมกับสีขาว ไห้ความรุ้สึกกว้างขวาง เบิกบาน อ้างว้าง เใ็นกันเอง ไว้ได้ สะอาด
   เทคนิคการไช้สีเพื่อการสื่อความหมาย
การไช้สีกับข้อความเนื้อหา ที่ต้องการไห้ผู้สามารถอ่านได้ง่ายและชัดเอง ควรยึดหลักที่ว่า สีพื้นเข้มต้องไห้สีตัวอักษรอ่อน แต่ไนทางกลับกันท้าสีพื้นเป็นสีอ่อนต้องไห้สีตัวอักษรเข้ม เช่น พื้นสีขาวตัวอักษรสีเหลือง สีส้ม หรือ พื้นสีน้ำเงินเข้ม ตักอักษรสีดำ สีเขียวเข้มสีน้ำตาล เปนต้น
   การใช้สีในเว๊บบล๊อก
การใช้สีเพื่อการตกแต่งเว๊บบล็อก โปรแกมได้กำหนดไว้ในส่วนปรับแต่ง แบบอักษรและ มีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จำสีหรือแถบสี ซึ่งประกอบไปด้วสี มืดและสีสว่าท นอกจากนี้ยังมีส่วนที่บันทึกสี
ที่เราใช้กับเว็บบล็อกในปัจจุบัญ และสีที่โปรแกมคำนวนไว้ ที่กลมกลืนกับสีเดิมได้ด้วย
ส่วนประกอบของบล็อก
เว็บบล็อกของblogger มีส่วนประกอบสำคัญ 3 ส่วนได้แก่
1 ส่วนหัวบล็อก ส่วนหัวบล็อกและคำอธิบายบล็อกเป็นส่วนที่สามารถตกแต่งให้สวยงามเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ด้วยรูปภาพและอักษรข้อความ
2 ส่วนบทความ ส่วนบทความเป็นส่วนที่สามารถบรรจุได้ทั้งรปภาพและข้อความแต่รูปภาพไม่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ตามความต้องการ
3 ส่วนปรับแต่ง เป็นส่วนที่สามารถย้ายตำแหน่งได้ทั้งด้านซ้ายและขวามีองค์ประกอบส่งเสริมความยืดยุ่นได้ดี สามารถเลื่อนตำแหน่งองค์ประกอบไปได้ทั้งซ้ายและขวา

การตกแต่งสีของเว็บบล็อก

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วัตถุประสงค์การไช้เว็บบล็อคเพื่อการเรียนการสอน
การไช้เว็บบล็อคเพื่อการเรียนการสอนมีวัตถุประสงค์ดังนี้
......1เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน
......2  เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมเนื้อหาบทเรีน
......3เพื่อเป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลอื่น
......4เพื่อการติดตามการปฏิบัติงานของผู้เรียน
......5เพื่อเป็นสื่อในการเผยแพร่งานของผู้เรียน
......6เพื่อเป็นสื่อเชื่อมโยงในการศึกาากับเว็บอื่นๆ
......7เพื่อนความสนุกเพลิดเพลินของผู้เรียน
......8เพื่อฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาแหล่งเรียนรู้ต่างๆ
ขั้นตอนการสร้างเว็บบล็๋อคในการฝึกอบรมเชิงประติบัติสำหรับนักศึกษาครั้งที่1คนะครุศาสครั้งนี้ไช้เว้บบล็อกเกอรืเป็นของบริษัทประเทศสหรัสท่านต้องมีจีเมลเป็นของตนเองเสีก่อนจากนั้นจึึงไช่อีเมลไปสร้างเว็บบล็อกได้อีที่ควรไช้กับบล้อคเกอก้ควรเป้นจีเมลเช่นเดีวกัน
ขั้นตอนการสมัครไช้จีเมลเป้นช่องมางการสื่อสารอีเล้กทรอนิคช่องทางหนึ่งบนเครือข่ายอินเตอรืเน็ตการสมัครไช้บรรชีขอลจีเมล
มิติของสีกลมกลืน
1สีกลมกลืน(harmony) เหมาะกับการไช้สำหรับเนื้อหาที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นพวกเดียวกัน
ประสารสอดคล้องกันได้ดี การไช้สีกลมกลืนเป็นเลือกสีที่มีตำแหน่งไกล้เคียงกันในวงล้อสี หรือในจารสีที่กำหนดในคอมพิวเตอร์ เช่น ดำ น้ำตาล แดง ส้ม เหลือง หรือ ดำน้ำเงิน เขียวแก่ เขียวอ่อน เหลือง เป็นต้น
2สีตัดกัน(contrast) เป็นการเลือกไช้สีที่มีตำแหน่งห่างกันในวงล้อสี จารสีที่กำหนดไว้ในคอมพิวเตอร์ สีตัดกันเหมาะกับเนื้อหาที่มีความแตกต่างกัน ขัดแย้ง แสดงความรุนเเรง ความลึกลับ ความตื่นเต้น ตัวอย่างของสีที่ตัดกัน เช่น แดงเขียว แดงน้ำเงิน แดงดำ ขาวดำ ส้มดำ ม้วงเหลือง เหลืงดำ  ส้มน้ำเงิน
เป็นต้น
มิติขิงสีโทนร้อนร้อและสีโทนเย็น
1สีโทนร้อน(warm tone) เหมาะกับเนื้อหาสาระที่ไห้ความรู้สึกตื่นเต้นหวาดเสียว รุนแรงไม่สงบ เด็ดเดี่ยว มีอำนาจการไช้สีโทนร้อนสามารถทำไห้เป็นสีกลมกลืนหรือสีตัดกันก็ได้
2สีโทนเย็น(cool tone)  เหมาะกับเนื้อหาที่ไห้ความรู้สึกสบายเป็นกันเอง ร้มเย็น อบอุ่น สงบเรียบง่าย ปลอดภัย การตไช้สีโทนย็นสามารถทำไห้เป็นสีกลมกลืนหรือตัดกันก็ได้
มิติของสีมืดเเละสีสว่าง
1 สีมืด(shade ส่วนหญ่เกิดจากสีแท้ ผสมกับสีดำ ไห้ความรู้สึกลึกลับ น่ากลัว มั่นคง หนักแน่น บึกบึึน ซ่อนเร้น สงสัย ไม่กระจ่าง

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การใช้อินเตอร์เน็ตและเว็บบล็อก

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

ชื่อ ด.ช. ณัฐภูมิ   บุญจู  ม.2/1
ชื่อ ด.ญ. โยศิตา เขียนเสมอ  ม.2/1
ชื่อ ด.ญ. วันดี ไทยรัตน์  ม.2/1

แบบทดสอบวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ 2 (ง 3.1 ตัวชี้วัด ม.2/1)
จงตอบคำถามต่อไปนี้โดยการใช้โปรแกรมเสิร์ชเอนจิน สืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต

1) องค์ประกอบของการสือสารมี 4 ประการคือ
     1.ผู้ส่งสาร
     2. สาร
     3.ช่องทางการสือสาร
     4.ผู้รับสาร
2)จงบอกความหมายของ "สือสารข้อมูล"
    กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้รับและผู้ส่งโดยผ่านช่องทาง เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูลเพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งเกิดความเข้าใจ

3)จงยกตัวอย่างอุปกรร์ที่ใช้ในการสือสารข้อมูลคอมพิวเตอร์
   3.1 เซิร์ฟเวอร์ (server)  คือ เครื่องคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์
   3.2 ไคลเอนต์ (client)    คือ เป็นคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้แต่ละคนในระบบเครือข่าย
   3.3 ฮับ (hub)    คือ อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกลุ่มคอใพิวเตอร์มีหน้าที่รับส่งเฟรมข้อมมูลทุกเฟรมที่ได้
                                 รับจากพอร์ตใดพอร์ตหนึ่งไปยังทุกๆพอร์ตที่เหลือ
   3.4 เราต์เตอร์ (router)  คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายอย่างหนึ่ง
   3.5 บริดจ์ (bridge)   คือ อุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายของเครือข่ายที่แยกจากกัน
   3.6 เกดเวย์ (gateway)   คือ เป็นจุดต่อเชื่อมโยงชองเครือข่ายทำหน้าที่เป็นทางเข้าระบบเครือข่ายต่างๆ
   3.7 โมเดม (modem)   คือ อุปกรณ์สำหรับคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่งที่ช่วยให้คุณสัมผัสกับโลกภายนอกได้                                             อย่างง่ายดาย

4)เครือข่ายชนิดใดมีขนาดใหญ่ที่สุด
   เครือข่ายอินเตอรืเน็ต

5)จงบอกประโยขน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
    ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งเครือข่ายจะมีการทำงานรวมกันเป็นกลุ่มที่เรียกว่า (workgroup)
    แต่เมื่อเชื่อมโยงหลายๆกลุ่มงานเข้าด้วยกันจะเป็นองค์กร จะเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ สามารถ                ประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขว้างโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์จะเกิดการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆเข้าด้วย    กันและสือสารถึงกันได้

6) นักเรียนเคยใช้วัสดุอุปกรณ์อะไร ในการสือสารข้อมูลบ้าง
    โทรศัพท์มืถือ คอมพิวเตอร์

7) จงยกตัวอย่างชนิดเครือข่ายคอมพิวเตอร์พร้อมกับระบุคุณสมบัติ
     7.1  LAN คือ 1. bus มีการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 10-100 MB 
                           2. star เป็นระบบที่มีเป็นต่อแบบรวมศูนย์
     7.2  WAN คือ ข่ายงานที่อยู่ห่างไกลกันมากอาจจะอยุ่ระหว่างเมืองหรือระหว่างประเทศ
     7.3  MAN คือ ระบบขนาดกลางระบบเน็ตเวิร์กที่ต้องอาศัยโคลงข่ายการสือการขององค์การโทรศัพท์
     7.4 PAN   คือ เทคโนโลยีเข้าถึงไร้สายในพื้นที่ส่วนเฉพาะบุคคลโดยมีระยะทางไม่เกิน 1 เมตร
     7.5 CAN  คือ เป็นโพรโตตอลในการติดต่อสื่อสารโดยออกแบบมาเพื่อรถหรือพาหนะ
     7.6 SAN   คือ เป็นระบบจัดเก้บข้อมูลโดยมีการแยก disk ออกจาก server หลักเพื่อการทำงานที่เร็วขึ้น
     7.7 Itranet  คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบภายในองค์กรใช้เท๕โนโลยีอินเตอร์เน็ต
     7.8 Extranet  คือ ระบบเครือข่ายซึ่งเชื่อมเครือข่ายภายในองค์กร คือ อินทราเน็ต
     7.9 Tnternet  คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อต่อเครือข่ายหลายๆเครือข่ายทั่วโลก
       

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

weblog คืออะไร

........blogg มาจากคำว่า world wide wed หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงทั่วโลก
คำว่า log รวมกันเป้นเว้บบล็อกแพร่หลายทั่วโลกประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้กับงานแทบทุกวงค์การ
........การสร้างสรรค์เว็บบล็อกให้สวยงามเว็บบล็อกได้รับความนิยมสูงทั่วโลกจึงมีหลายบริษัทสร้างสรรค์องค์ประกอบต่างๆที่ใช้ในการตกแต่งเว็บบล็อกให้สวยงามโดการเขียนโค้ดหรือสคริปต์สิ่งต่างๆ เช่น คน การ์ตูน สัตว์ พืช ดอกไม้ สิ่งของต่างๆทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวให้สามารถนำใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมแต่อย่างใด ช่วยให้การสร้างสรรค์เว็บบล็อกสะดวกและง่ายขึ้นเพียงแต่คัดลอกโค้ดมาวางในเว็บบล็อกของตนเองรูปภาพนั้นจะแสดงผลทันที
........ข้อดีของเว็บบล็อกมีหลายประการคือ
........1ใช้เป้นเว้บส่วนตัวหรือเว็บสาธารณะก็ได้
........2ไม่ต้องใช้ความรู้ทางคอมพิวเตอร์ชั้นสูงก็สามารถทำได้
........3ไม่ต้องขอพื้นที่บนเครือข่ายบนเคือข่ายอินนเตอร์เน็ตทั่วไป
........4สามารถบรรจุภาพนิ่งเสีงและภาพเคลือนไหวเหมือนเว็บไซต์ทั่วไปได้
........5สามารถไช้งานหรือปรับแต่งไห้สวยงามได้ด้วยตัวเอง
........6นำมาประยุกต์ใช่กับการเรียนการสอนได้ดี
........7สำหรับเว็บบ็ลอคสามารถบรรจุบทความได้มากถึง999บทความ
........8สามารถแทรกองค์ประกอบต่างๆที่เป็นประโยชย์กับการทำงานได้หลายอย่างเช่นตัวเลขนับผู้ชม(counter)กระดานข่าว(wed board)สไลด์ คลิปวิดิทัสvideoclipเป็นต้น
.......9สามารถกำหนดผู้ชมได้ตามที่ต้องการ
...10สามารถเชื้อมโยงกับเว็บไซน์อื่นๆได้ตามต้องการ
ในวงการศึกษาสามารถนำเว็บบล็อคมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดีเนื้องจากเว็บบล็อคจะทำหน้าที่เชื้อมโยงระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ผู้เรียนกับผู้เรียน หรือผู้เรียนกับบุคคนอื่นได้ตลอตเวลาและทุกสถานที่ที่มีอินเตอร์เน็ตไช้ทำไห้กระบวนการเรียการสอนดำเนินไปได้ตลอดเวลาตามความพร้อมของสิ่งแวดล้อมและความต้องการของผู้สอนกับผู้เรียน ด้านเนื้อหาบทเรียนผู้เรียนสามารถค้นคว้าความรู้ต่างที่สอดคล้องกับบทเรียนได้จากเว็บไซค์อื่นได้